วันนี้วิศวกรเห็ดเขียนบทความเรื่องสารสเตียรอยด์ เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ไปเสียแล้วสำหรับการมีชีวิตในยุคนี้
สเตียรอยด์ เป็นชื่อเรียกของกลุ่มฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างจากต่อมหมวกไต ซึ่งสเตียรอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นมีหลักๆ อยู่ 2 ชนิด คือ คอร์ติโซล (cortisol) และ อัลโดสเตอโรน (aldosterone)
"คอร์ติโซล" จะถูกหลั่งออกมามากที่สุดในตอนตื่นนอน และน้อยที่สุดในตอนนอนหลับ เมื่อร่างกายมีภาวะเครียดเกิดขึ้น เช่น มีไข้ มีบาดแผล ได้รับการผ่าตัด หรือมีการออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งคอร์ติโซลเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยควบคุมภาวะเครียดหรือความกดดันเหล่านั้น นอกจากนี้สเตียรอยด์ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในการบรรเทาอาการอักเสบ ควบคุมสมดุลของเกลือแร่และน้ำ รวมถึงมีบทบาทต่อเมตาบอลิซึ่ม(การย่อยสลายโมเลกุลใหญ่ให้เป็นโมเลกุลเล็กเพื่อเป็นพลังงานในการดำรงค์ชีวิต)ของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
"อัลโดสเตอโรน" ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย คือโปแตสเซียมและโซเดียม หากมีอัลโดสเตอโรนหลั่งออกมามากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายขับโปแตสเซียมออกมาก กล้ามเนือ้อ่อนแรง และทำให้มีความดันโลหิตสูงได้
ดูรายละเอียดนี้มาสเตียรอยด์ก็มีประโยชน์กับเรามากไม่ใช่เล่นๆเลยนะครับ แต่ทำไมเวลาพูดถึง "สารสเตียรอยด์" เราจะนึกถึงแต่อันตรายเสียมากกว่าครับ
ก็เนื่องจากว่าสารสเตียรอยด์ นั้นเป็นฮอร์โมนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมหาศาล ทางการแพทย์จึงได้สังเคราะห์สารนี้มาใช้รักษาโรคต่างๆ มากมาย เช่น
ใช้เพื่อทดแทนการขาดฮอร์โมน โดยปกติจะใช้สเตียรอยด์เพื่อทดแทนการขาดฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ที่มีสาเหตุมาจาก ความบกพร่องของต่อมหมวกไต และจากความบกพร่องของต่อมใต้สมองส่วนหน้า
ใช้รักษาโรคต่าง ๆ สเตียรอยด์จะถูกใช้เมื่อใช้ยาอื่นไม่ได้ผล หรือโรคนั้นไม่อาจควบคุมด้วยยาอื่น เนื่องจากมีอาการข้างเคียงสูง วัตถุประสงค์ที่นำสเตียรอยด์ไปใช้ก็เพื่อบรรเทาอาการอักเสบและ/หรือกดภูมิคุ้มกันในโรคต่าง ๆ นั้น เช่น
โรคภูมิแพ้
สเตียรอยด์ เมื่อใช้ในโรคภูมิแพ้ จะให้ผลดีและรวดเร็วในการควบคุมอาการหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหืด ไข้หวัดเรื้อรังชนิดแพ้อากาศ ไข้ละอองฟาง การแพ้ยาและโรคผื่นคันตามผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ แต่เนื่องจากยามีอันตรายจากการใช้สูง จึงควรเก็บไว้ใช้ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ และใช้ในระยะเวลาสั้น เช่น เป็นโรคหวัดคัดจมูกเรื้อรังชนิดแพ้อากาศ ที่ใช้ยาต้านฮีสตามีนไม่ได้ผล หรือเป็นโรคหืด ใช้ยาขยายหลอดลมแล้วไม่ได้ผล
โรคผิวหนัง
ใช้ลดอาการทางผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ การอักเสบและโรคผิวหนังที่ทำให้เกิดอาการคันต่าง ๆ แต่การใช้ยาสเตียรอยด์ ไม่ใช่เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ เป็นเพียงยับยั้งอาการคันและอาการอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา ดังนั้น เมื่อหยุดยาก็จะกลับมาเป็นอีก และอาจมีผลทำให้การติดเชื้อลุกลามได้ เพราะสเตียรอยด์มีผลในการกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
โรคตา สเตียรอยด์ ใช้ได้ผลในการรักษาโรคของตาที่เกิดจากอาการแพ้ เช่น อาการแพ้แสง อาการเคืองตา เนื่องจากการแพ้สารบางชนิด ที่ไม่ใช่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งแพทย์มักรักษาด้วยการใช้ยาหยอดตา ดังนั้น จึงห้ามใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ในกรณีที่ติดเชื้อ และยานี้ไม่มีผลในการรักษาต้อ-กระจก นอกจากนี้หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจให้ความดันในลูกตาสูงขึ้นจนเกิดเป็นโรคต้อหินได้
โรคข้ออักเสบชนิดรูมาตอยด์
การรักษาโรคนี้ปกติจะใช้ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ก่อน หากมีอาการอักเสบที่รุนแรงแพทย์อาจพิจารณาให้สเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการเฉพาะครั้ง กรณีที่มีการอักเสบเฉพาะบางข้อนั้น การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อ อาจช่วยลดการอักเสบได้ในระยะแรก
การนำสารเสตียรอยด์สังเคราะห์มาใช้อย่างพร่ำเพรือเกินพอดี กลับกลายเป็นดาบสองคม ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือความเห็นแก่ได้ของผู้ประกอบการบางราย เช่น การใส่สเตียรอยด์สังเคราะห์ในเครื่องสำอาง ใช้แล้วสิวหายเร็ว หน้าก็ขาว หน้าใส ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วทันใจหนุ่มๆสาวๆ สมัยนี้ หรือใส่สเตียรอยด์สังเคราะห์ในยาชุด กินแล้วมีกำลังวังชา หายปวดหายเมื่อย เป็นยาครอบจักรวาล อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายหรือถึงแก่ชีวิตได้
แล้วเห็ดหลินจือ มีบทบาทต่อสารสเตียรอยด์ได้อย่างไร?
เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ระบบการทำงานต่างๆของร่างกายก็แย่ลง
ระบบต่อมหมวกไตที่เคยผลิตสารสเตียรอยด์เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันเริ่มลดลง ทำให้
-ระบบการย่อยอาหาร (เมตาบอลิซึ่ม)เสื่อมลง
-การควบคุมภาวะความเครียด ได้น้อยลง
-การควบคุมการอักเสบของเซลล์เสื่อมลง ทำให้เป็นต้นเหตุของมะเร็งในระยะแรก และเกิดการลุกลามของเซลล์มะเร็ง
-ระบบควบคุมเกลือแร่ทำงานไม่ดี ทำให้เกิดโรคความดันสูงจากการสูญเสียการควบคุมการขับเกลือโพแทสเซียมในร่างกาย และความเป็น Electrolyte ในเลือดเสียสมดุลย์
ในเห็ดหลินจือมีสารสเตียรอยด์ธรรมชาติที่เป็นชนิดเดียวกันกับที่ร่างกายคนเราสังเคราะห์ขึ้นมาได้ คือ คอร์ติโซล (Cortisol) การดื่มชาเห็ดหลินจือเป็นประจำ จึงช่วยเพิ่มสารสเตียรอยด์ตามธรรมชาติในร่างกายให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ
คนที่เคยทานสเตียรอยด์ แล้วอยากหยุดยา ท่านไม่สามารถหยุดได้ทันทีทันได เพราะเนื่องจากอาการแพ้ต่างๆของท่านจะกลับมาจนไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนปกติได้ วิศวกรเห็ดแนะนำแบบนี้ครับ
ให้ลดปริมาณยาให้น้อยลง แล้วดื่มเห็ดหลินจือเพื่อเพิ่มสารเสตียรอยด์ธรรมชาติเข้าไปทดแทนในร่างกาย จนกระทั่งสามารถหยุดการใช้ยาได้ และควรดื่มชาเห็ดหลินจือต่อไปเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
นี่วิศวกรเห็ดแค่เขียนบทความของสารตัวยาตัวเดียวในเห็ดหลินจือแค่นั้นเองครับ ยังมีตัวยาอื่นๆอีกหลายร้อยชนิดให้ตื่นเต้น ถ้าเราศึกษามันดีๆ เห็ดหลินจือถึงได้ถูกยกให้เป็นราชาแห่งสมุนไพรตั้งแต่สมัยจีนโบราณ
วิศวกรเห็ด
 |
